top of page
รูปภาพนักเขียนSiri Shipping

รถไฟฟ้าลาว - จีน เปิดบริการเดือน ธ.ค. 2564 มีผู้มาใช้บริการในฝั่งจีนแล้วกว่า 30,000 คน


ผ่านมาไม่ถึงเดือนมีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 3 หมื่นคน ตามข้อมูลของสื่อทางการจีน

การเปิดให้บริการของรถไฟความเร็วปานกลางมูลค่าเกือบ 2 แสนล้านบาทนี้ เกิดขึ้นในขณะที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ยังไม่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวจากภายนอกเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทว่าก็สร้างความตื่นเต้นดีใจให้กับชาวลาวและชาวไทยในลาว


เส้นทางรถไฟลาว-จีนมีทั้งหมด 32 สถานีทั้งสถานีรับส่งผู้โดยสารและสถานีขนส่งสินค้า ปัจจุบันเปิดบริการรับส่งผู้โดยสารในฝั่งลาวแล้ว 6 สถานี ได้แก่ บ่อเต็น เมืองไซ หลวงพระบาง วังเวียง โพนโฮง และนครหลวงเวียงจันทน์ ระยะเวลาเดินทางยาวสุดคือ 4 ชั่วโมง 20 นาทีจากเวียงจันทน์ถึงบ่อเต็น หากเดินทางโดยทางรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถโดยสารแล้วต้องใช้เวลาเดินทางมากกว่า 13 ชั่วโมงบนระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร


หากจะเดินทางไปหลวงพระบาง เดินทางโดยเครื่องบินจะใช้เวลา 40 นาที หากเป็นรถโดยสารก็ 7-8 ชั่วโมง ส่วนวังเวียงก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ รองจากหลวงพระบางซึ่งสามารถเดินทางโดยรถไฟได้ในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง แต่ปีที่ผ่านมาได้มีการเปิดใช้ทางด่วนนครหลวงเวียงจันทน์ - วังเวียงทำให้การเดินทางสะดวกสบายและรวดเร็วขึ้นและใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 1 ชั่วโมง




สถานที่ตั้ง


* ด้านหน้าสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์


สถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ ตั้งอยู่ที่บ้านดอนหนูน เมืองไซทานี นครหลวงเวียงจันทน์ ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 13 และเลี้ยวขวาไปทางถนน 450 ปีประมาณ 5 กิโลเมตร และเลี้ยวซ้ายตามป้ายภาษาลาวและภาษาจีนไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร จากนั้นจะมีป้ายภาษาลาว ภาษาจีน ให้เลี้ยวซ้ายไปยังสถานี ในปัจจุบันยังไม่มีรถโดยสารสาธารณะให้บริการไปยังสถานี จึงต้องเดินทางด้วยพาหานะส่วนบุคคล รถตุ๊กตุ๊ก หรือรถแท็กซี่เท่านั้น โดยค่าบริการประมาณ 100,000 กีบ (ราว 286 บาท)


* "บ่อนขายปี้" หรือ ห้องขายตั๋ว ของสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์


ห้องขายตั๋วรถไฟเปิดให้บริการ 3 ช่วงคือ 7.00 - 10.00 น. 14.00 - 16.30 น. และ 20.00 - 20.40 น. ประตูจะเปิดให้เข้าไปในสถานีตามเวลาที่ระบุเท่านั้น การซื้อตั๋วรถไฟจะต้องใช้บัตรประจำตัวที่มีรูปพร้อมทั้งเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ครบ 2 เข็ม สามารถใช้สำเนาและให้บุคคลอื่นไปซื้อแทนได้ แต่ในวันเดินทางจริงจะต้องใช้เอกสารฉบับจริงเท่านั้น

ตู้โดยสารรถไฟแบ่งเป็น 3 ชั้น ราคาแตกต่างกัน สำหรับจุดหมายต่อเที่ยว ดังนี้

เวียงจันทน์-หลวงพระบาง ระยะเวลา 2 ชั่วโมง

ราคาชั้น 1 อยู่ที่ 313,000 กีบ (ประมาณ 894 บาท)

ชั้น 2 อยู่ที่ 198,000 กีบ (ประมาณ 566 บาท) และ

ชั้น 3 อยู่ที่ 140,000 กีบ (ประมาณ 400 บาท)

แต่เนื่องจากปัจจุบันรถไฟเพิ่งเปิดดำเนินการ การโดยสารในชั้น 3 จึงยังไม่เปิดให้บริการ

ถ้าเทียบราคาและระยะเวลากับการเดินทางด้วยเครื่องบินและรถโดยสารสาธารณะ มีความต่างคือ ค่าโดยสารเครื่องบินเริ่มต้นที่ราว 400,000 กีบต่อเที่ยวบิน (1,143 บาท) ใช้เวลาราว 40 นาที ส่วนรถโดยสารสาธารณะใช้เวลา 7 - 8 ชั่วโมงกับระยะทาง 354 กิโลเมตรและค่าเดินทางประมาณ 180,000 - 200,000 กีบต่อเที่ยว ทำให้การเดินทางโดยรถไฟเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งมีเหมาะสมทั้งราคาและเวลาในการเดินทาง



ก่อนเข้าไปในอาคาร เจ้าหน้าที่ในชุด PPE ได้ตรวจบัตรประจำตัวที่มีรูปและเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 ครบ 2 เข็มและทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย วัดอุณหภูมิและล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าไปในอาคารได้ เมื่อเข้าไปในอาคารแล้วจึงจะสามารถต่อแถวเพื่อซื้อตั๋ว ช่องจำหน่ายตั๋วเปิดให้บริการแค่บางช่องแต่คาดว่าในอนาคตเมื่อมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแล้วน่าจะเปิดให้บริการครบทุกช่อง รวมระยะเวลาทั้งหมดตั้งแต่ยืนรอหน้าประตูจนถึงซื้อตั๋วเดินทางใช้เวลาประมาณ 25 นาที


ซึ่งปัจจุบันบริษัทนำเที่ยวบางแห่ง ได้โฆษณาขายบริการแพ็คเกจตั๋วรถไฟพร้อมที่พัก และมีการบริการซื้อตั๋วรถไฟให้โดยคิดค่าบริการ 20,000 กีบต่อใบ ซึ่งก็ช่วยประหยัดเวลาและค่าเดินทางได้ดีทีเดียว



  • ภาพและเรื่องโดย เริงปอย แดนจำปา (นามแฝง)/BBC THAI

  • หญิงไทยในเวียงจันทน์



ดู 2 ครั้ง

Comments


bottom of page